ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เกี่ยวกับการยุบพรรค...................ตอนที่ 2

ก่อนหน้าการวินิจฉัยคดีในวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงกันประเด็นหนึ่ง คือ พรรคที่ถูกยุบจะไปจดทะเบียนใหม่ในชื่อเดิมหรือคล้ายชื่อเดิมได้หรือไม่ พรรคประชาธิปัตย์และไทยรักไทยมีความเห็นว่าทำได้ แต่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ออกมายืนยันทั้งก่อนหน้าและภายหลังการวินิจฉัยคดีว่าทำไม่ได้ เพราะต้องใช้เวลาในการชำระบัญชีต่าง ๆ ให้เสร็จภายใน 6 เดือน ตามมาตรา 68 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง และยังมีประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 และ 27 เกี่ยวกับการห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองอยู่
ภายหลังคดียุบพรรคการเมืองเนื่องจากการเลือกตั้ง 2 เมษายน พ.ศ. 2549 กลุ่มไทยรักไทย (เดิมคือ พรรคไทยรักไทย) มีมติที่จะส่งอดีต ส.ส.เก่า สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชน เพื่อลงรับเลือกตั้งครั้งใหม่ หลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550[5][6] โดยมีข่าวว่า แกนนำกลุ่มไทยรักไทย ได้เชิญ นายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยนายสมัครให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นผู้โทรศัพท์ทางไกลมาเชิญให้รับตำแหน่งด้วยตัวเอง[7] จากนั้น ได้จัดให้มีการประชุมใหญ่ของพรรค เพื่อลงคะแนนเสียงเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ผลปรากฏว่า นายสมัคร สุนทรเวช ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค และ นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นเลขาธิการพรรค
หลังจากไปใช้ชีวิตที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ได้ซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี ถือหุ้นทั้งหมด 75 เปอร์เซ็นต์ โดย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ขอให้แฟนบอลเรียกตนอย่างง่ายๆ ว่า แฟรงค์ ชินาตรา (Frank Sinatra)
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2551 สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ ให้นายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ [2] วันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายสมัครยังได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อีก 1 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นพลเรือนคนที่ 3 ที่ดำรงตำแหน่งนี้
ขณะที่นายสมัคร สุนทรเวช ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้จัดรายการ สนทนาประสาสมัคร ซึ่งออกอากาศทุกวันอาทิตย์ 09.00 น. เพื่อรายงานการทำงานและชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจในเรื่องราวต่างๆ
ระหว่างนั้นก็มีการเริ่มต้นชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น